Translate

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Estée lauder : Double Wear Maximum Cover SPF 15





Double Wear Maximum Cover 
Camouflage Makeup for face and body SPF 15. 
No.01 Creamy Ivory

12-hour staying power. Soothing, natural-looking, 

liquid-creme makeup for concealing 
all skin imperfections, including surgical and 
acne scars, birthmarks, sun spots and 
varicose veins. Helps protect with SPF 15. 
Suitable for post-surgery use as directed 
by your physician. Developed and tested in 
collaboration with 
surgeons and dermatologists.

Full Coverage
Natural-looking
Long-wearing
Non-transferable
Dermatologist-tested
Non-acnegenic

My daily foundation mostly is 

basic Double Wear original. 
Sometimes when i had a problem skin 
such as red acne or dark spot. 
I' m alway used concealer stick 
for hiding my whole flaw.
 
Double Wear Maximum Cover 
is my new coverage, 
i choose No.01 "Creamy Ivory" for my skin tone. 
This' s super rich cream, 80% can coverage 
and helping me for hiding all my problem just one step!!.
 And when i want to perfect elegant  make up look, 
this' s my new choice for Perfect skin. 
Easy blend, matte finish and very very long wearing.

 



Estée Lauder
Double Wear Maximum Cover 
Camouflage Makeup for face and body SPF 15. 
No.01 Creamy Ivory
  
เคยเขียนลง Blog ไปก่อนหน้านี้แล้วว่า Double Wear 
เป็นรองพื้นที่เราใช้ประจำเป็นส่วนใหญ่ 
เพราะคุณสมบัติที่ติดทนนาน 
สีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน...บลาๆๆ 
แต่เวลาผิวเยินมากๆ เป็นสิว มีรอยดำ รอยแดงจากอาการสิวเห่อ 
เราต้องเสียเวลาใช้ คอนซีลเลอร์ ค่อยๆแตัม ปกปิดไปทีละจุดๆ 
กว่าจะกลบรอยหมด ทำเอาเพลียเลยทีเดียว
 
ตัวใหม่นี้เป็น maximum cover 
เค้าเคลมว่า สามารถอำพรางริ้วรอยทุกชนิดได้หมด 
ปกปิดได้แม้กระทั่งรอยปาน
Fc Double Wear อย่างเราไม่มีพลาดอยู่แล้ว 
เราซื้อตัวนี้ที่เคาน์เตอร์ในไทยเนี่ยแหละค่ะ 
ตอนนั้นสีรองพื้นรุ่นนี้ ยังมีให้เลือกไม่มากค่ะ 
มีออกมาแค่ 4 สี และสีส่วนใหญ่ค่อนข้างเข้ม 
สีที่สว่างที่สุดแล้วคือเบอร์ 01 Creamy Ivory 
ซึ่งเป็นสีที่เราเลือก แต่ก็ยังไม่ถูกใจซะทีเดียว 
เพราะผิวเราขาวเหลือง แต่ตัวนี้เป็นขาวชมพู 

 ตอนนี้ข่าวว่ามีสีใหม่เพิ่มมาอีก 3 สี 
และออกโทนเหลืองด้วยล่ะ ถ้าใช้ตัวนี้หมด
อาจจะไปลองสีใหม่ค่ะ
เวลาเราเลือกสีรองพื้น ไม่ว่าจะยี่ห้อไหนก็ตาม
เราจะเลือกเฉดที่สว่างกว่าผิว 1 step 
เพราะเผื่อสีเปลี่ยนระหว่างวัน 
ตัวนี้เนื้อครีมเข้มข้นกว่าสูตรเดิมพอสมควร 
เป็นเนื้อ matte แต่พอเกลี่ยแล้วไม่ได้รู้สึกว่าหนา หนัก 
จริงๆ ถ้าทาเนื้อครีมในปริมาณมากหน่อย 
ก็น่าจะปกปิดริ้วรอยได้เกือบหมดนะ 
แต่เรายังไม่เคยทาหนาขนาดนั้นค่ะ เพราะอยากให้ผิวได้หายใจ 
ก็จะบีบครีมออกมาทีละน้อย เกลี่ยหนาแค่พอประมาณ 
ปกปิดได้ระดับ 80% เหลือร่องรอยเล็กๆน้อยๆ 
ก็ใช้คอนซีลเลอร์ช่วยอีกหน่อย 
ช่วยประหยัดเวลา แต่งหน้าง่ายขึ้นค่ะ 
นอกจากจะใช้เพื่ออำพรางข้อบกพร่องบนใบหน้าแล้ว 
เราว่าตัวนี้ยังเหมาะที่จะใช้แต่งหน้าเวลาไปงาน 
หรือต้องการแต่งหน้าแบบผิวเนียนเรียบกริบ
สมบูรณ์แบบ ไร้รูขุมขน 
ถ้าอยากให้หน้าเป๊ะ จัดเต็ม ราวกับแต่งหน้านางงาม นางแบบ 
ตัวนี้น่าจะ ok เลย 
ไม่เหนียว ไม่มัน เหมือนรองพื้นเนื้อหนาบางยี่ห้อค่ะ
 
อ้อ...มีเคล็ดลับที่อยากจะแนะนำคือ 
ให้ลองผสมครีมกับ Strobe Cream ของ Mac 
เกลี่ยให้เข้ากันที่หลังมือก่อน  แล้วค่อยเอามาทาหน้า 
วิธีนี้จะช่วยอำพรางผิวที่ดูอ่อนล้า ช่วยให้ผิวดูสวยสว่างสดใส 
เรียบเนียน ส่องประกายค่ะ


วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Jo Malone : Peony & Blush Suede





The latest 2013 fragrance of Jo Malone. 
Luxurious. Opulent, Flirtatious.
Peonies in voluptuous bloom, exquisitely fragile.
Flirtatious with the juicy bite of red apple 
and the opulence of jasmine, rose and gillyflower. 
Mingling with the sensuality of soft blush suede.
Top note is red apple, 
middle notes are peony, jasmine, carnation and rose, 
base note is suede.

The fragrance opens with the crisp bite of juicy apple,

combined with fresh almond 
which brings a powdery softness, 
The peony takes centre stage. 
An exquisite floral with delicate rose and honey accents,
softened with a subtle, green freshness.
The intriguing aspect of this fragrance is the duality of 
the enveloping, feminine floral and the muscle of 
the textured suede in the base.

Jo Malone recommend a few of favorites for 
Fragrance Combining with Peony & Blush Suede are Grapefruit 
creates a luxurious floral with a crisp, uplifting twist,
English Pear & Freesia 
creates an exquisitely juicy floral 
with a sensuous, mellow touch 
Nutmeg & Ginger
creating a warm spicy floral, 
vibrant and deliciously sensual.

This' s super gorgeous !! 
Fresh on first and bring you lost in to the room of bloom,
flower scented smolder around there 
and most them all are pink. 
Powdery at the end and i did' t clearly smell of suede. 
I love smelled of leather and suede, 
so i hope that would be show on, 
however i did' n disappoint, 
this' s amazing already and beautiful i love.
It's so soft sweetness & sentimental. 
Very lady, Very luxe. 
Perfect wearing all the time.
Great for every moment. 
Intense and i love it quite long lasting.

 



Peony and Blush Suede
ตั้งแต่ปลายปี 2011 เป็นต้นมา 
น้ำหอมโจ ที่ออกใหม่มาแต่ละขวด ค่อนข้างโดนใจเรามากๆเลย 
ถ้าเป็นรุ่นที่เก่ากว่าก่อนหน้านั้น สำหรับเรา เราว่า
มันยังไม่ค่อยโดน หอม...แต่ไม่สุด มันยังไงไม่รู้ 
แต่นับตั้งแต่ blackberry & bay ไล่ลงมาถึงปัจจุบัน 
( รวมพวก limited ด้วยนะ )
เกือบทั้งหมด กลิ่นค่อนข้างสมบูรณ์แบบ 
จนไม่มีความจำเป็นต้องไปผนึกกำลังกับกลิ่นอื่นๆ 
ทำเอาเรากลายเป็นสาวกโจไปแล้วแบบไม่รู้ตัว 
( ให้มันได้หยั่งเง้เซ่...)
เราเฝัารอน้ำหอมกลิ่นนี้มาหลายเดือน 
ตอนแรกคิดว่าจะมาถึงไทยช้ากว่านี้ค่ะ 
แต่คราวนี้ออกวางขายไล่เลี่ยกับต่างประเทศ 
ทำให้เราถอยมาเชยชมได้รวดเร็วทันใจ ดีใจฝุดๆ อิอิ
กลิ่นนี้สำหรับตัวเองแล้ว ไม่ทำให้ผิดหวังเลยค่ะ 
"กลิ่นสวยมาก" กลิ่นค่อนข้างเป็นผู้หญิงจ๋าเลยทีเดียวค่ะ
เป็น floral fruity แต่กลิ่นดอกไม้จะโดดเด่นกว่า 
กลิ่นเปิดจะมาแค่ช่วงสั้นๆ 
กลิ่นจะค่อนข้างสดชื่นจากผลแอ็ปเปิ้ลสุก 
แล้วตามมาด้วยกลิ่นอบอวลของมวลดอกไม้ กลิ่นหอมคลุ้ง 
เหมือนเราอยู่ในห้อง ที่เต็มไปด้วยช่อดอกไม้สีชมพูอ่อนๆ 
บานฟูพรึ่บ เต็มห้อง แต่อาจจะเพราะมีกลิ่นแบบ fruity ซ่อนอยู่ 
เลยทำให้กลิ่นไม่ได้รู้สึกหวานเลี่ยนเกินไป 
มันออกมากำลังดีค่ะ 
แอบมีกลิ่นเขียวปนเล็ก ในช่วงต้นๆ ซักพักก็หายไป 
การผสมผสานกันของกลิ่นดอกไม้หลากหลายชนิดในช่วงนี้ 
เข้ากันได้ดีมาก 
ไม่รู้ทำไม น้ำหอมที่เป็นกลิ่น peony 
จะต้องมีกุหลาบเป็นส่วนผสมด้วยเสมอ 
แต่มีหลายยี่ห้อมากๆ ที่ทำไปทำมา กลิ่นกุหลาบเด่นกว่าซะงั้น 
ขวดนี้เราก็ได้กลิ่นกุหลาบแทรกอยู่ด้วย 
แต่ไม่ได้เด่น จนกลบกลิ่นอื่นๆไปหมด 
หลังจากนั้นกลิ่นจะไปทาง powdery หอมอบอุ่น 
พยายามควานหาช่วงกลิ่นของหนังกลับ ว่ามันอยู่ตรงไหน 
แต่หาไม่เจอค่ะ 55 
คือเราชอบดมกลิ่นของหนัง เช่นกลิ่นกระเป๋าหนังวัว 
( ถ้าหนังบัฟฟาโล่มันจะเหม็นค่ะ )
จะหนังกลับ ไม่กลับชอบหมด ขนาดรองเท้าหนังซื้อมาใหม่ๆ 
ก็ยังแอบดมก่อนใส่เลย ( โรคจิตป่ะเนี่ย!! )
เลยแอบคาดหวังว่าจะรู้สึกถึงกลิ่นแบบนี้ได้ชัดๆ 
แต่เราไม่ได้กลิ่นค่ะ เราว่ากลิ่น peony ชัดกว่านะในช่วงท้าย
แต่ช่างเหอะ 
เพราะขนาดนี้ก็หอมชนะใจเราไปแระ
กลิ่นนี้เหมาะกับผู้หญิงมากๆ 
เหมาะที่จะใช้ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ ทุกสภาพอากาศ 
กลิ่นนี้ เข้มข้น ติดทนเลยทีเดียวค่ะ ใช้เดี่ยวๆก็หอมจะบ้าแล้ว 
แต่ถ้าอยากจะสนุกสนานกับการคอมไบน์ ทางโจ แนะนำ 
Grapefruit 
เพิ่มความสดฉ่ำ สดชื่น ยิ่งๆขึ้น, 
English Pear & Freesia 
เพิ่มความสด ความหวาน อัดกลิ่นดอกไม้เข้าไปอีก 
เติมอารมณ์ผู้ยิ้งงงผู้หญิงให้ยิ่งเต็มพิกัด, 
Nutmeg & Ginger 
เพิ่มความอบอุ่น ซาบซ่า ลดความเป็นสาวหวานลงไป 
เติมความทะมัดทะแมงให้กลิ่น 
ตัวนี้ไม่ได้เป็นลิมิเต็ด หาซื้อใช้ได้ตลอด 
ไม่ต้องประหยัดอดออมใช้ด้วยล่ะ ดีจัง :D