Model Own : Soft powder Blushers

Warm natural glow blush, soft light color 

with bit of shimmering dust
build your cheeks illuminating up & Dewy.
i like a cool cases so much. 

Clearly plastic look chic and strong.
It's like a good value product 

but it's very great low price.

 

Cheeky Pink
Sweet dolly pink with silver shimmering 

color smooth on natural-look.
This color soooo pretty

 and silver shimmering dust not shining too much 

it just show you glow dewy healthy skin cutie.

Warm Glow
A golden nude peach color 

fill like a glow bare skin on my face.
This color quite lighten pale for my color skin. 

You can use only one for radiant 

or sweeping on another color for highlighter. 

Can use all around your face neck & body.

Model Own Soft powder Blushers
Model Own เป็น UK brand โดดเด่นเรื่องยาทาเล็บ 

แต่ก็มี makeup น่ารักๆ เหมาะสำหรับ
สาวน้อยวัยใสมาให้เลือกใช้กัน แม้จะมีไม่มาก 

แต่เทียบกับคุณภาพ และราคาแล้ว จัดได้ว่าเกินคุ้ม
แม้จะเน้นไปทางสาววัยใส แต่ไม่ได้หมายความว่า

ไม่เหมาะกับสาวใหญ่นะจ๊ะ
โดยเฉพาะ powder blush ของเค้า 

เพราะมีสีสันเป็นธรรมชาติ จึงเข้ากับทุกวัย และเพศที่123 ได้ง่ายๆ
Blush ของเค้าจะมี shimmer อ่อนๆ เบาๆ พอน่ารัก 

glow กำลังดี ไม่วาวเป็นมนุษย์อวกาศ
ช่วยขับผิวให้ดูฉ่ำๆ น่ารัก สุขภาพผิวดี
เราชอบตลับของเค้าสุดๆ สวยแบบเรียบๆ เก๋ๆ 

น่าหยิบใช้ตลอด ดูแข็งแรงทนทานดี มองเห็นสีได้ชัดเจนเลย
ทำให้หยิบใช้สะดวก
( จริงๆแล้วตลับออกแบบมาเหมือนกับยี่ห้อ Catrice เป๊ะๆ 

ประมาณว่าออกมาจากโรงงานเดียวกันเลย )

Cheeky Pink
สีชมพู บาร์บี้มากๆ สีสวยมากค่ะ 

สีนี้มี ประกาย shimmer สีเงินละเอียดยิบมากๆ 

ไม่ดูเหมือนทากากเพชรแน่นอน 

วาวเบาๆ สวยกำลังดี 

แต่สีอาจเลือนได้ง่าย ถ้ามีการซับหน้าบ่อยๆ 

เอาน่า.....ราคาแค่นี้

Warm glow
ตัวนี้สีออก nude อมส้มอ่อนๆ 

มี shimmer สีทองผสมค่ะ 

ด้วยความที่สีค่อนข้างนู้ด ปัดไปจะเห็นสีไม่ค่อยชัด
แต่ถ้าใครผิวขาวจัดๆน่าจะเห็นนะ 

แต่นั่นมิใช่ปัญหา ดีซะอีก 

เพราะทำให้เราสามารถใช้ตัวนี้ได้หลากหลายวิธี
ปัดเดี่ยวๆ + smokey eye + nude lips เก๊าะจะออกมาเปรี้ยว
ปัดเดี่ยวๆ + ทาปากสีปรี๊ดแตก กลายเป็นสาวเก๋ๆ
หรือปัดมันบนหน้าธรรมดาๆ ก็ดู dewy แก้มฉ่ำ เป็นธรรมชาติ 

จะปัดทับสีอีน ก็ช่วยเพิ่มมิติ 

แถมยังใช้เป็น highlight โหนกแก้ม เปลือกตา สันจมูก...

หรือแม้แต่ตามร่างกาย

โอ้ย มากมายๆ must have จริงค่ะสีนี้

Jo Malone : English Pear & Freesia

A scent that is inspired by a walk in an orchard 
and captures the luscious scent of just-ripe pears, 
cooled by the autumn air, ready to twist free from the tree. Experience the surprising, 
sensuous freshness of sweet pears, 
wrapped in a bouquet of white freesias, 
on a subtle background of scrambling wild roses 
and skin-warming amber, patchouli and woods.

Clear of water first moment 
following crispy fresh fruit, rarefy flower and rose soft 
and feminine scent balancing with the green smell 
and blending to clearly amber.
I'm not sure....but the last of base note i smelled musk too.
It so fresh & lightly matching between green 
and floral scented, this is the odorous of garden, 
quite be a calm, peaceable and relaxing scent than the 
lively and enthusiastic.
This scented is must be fruity floral scent 
but the green note quite prominently 
be strange 
because some time i feeling to the cooling greenly
 fresh scent but some time swop to feeling of the soft warm 
of amber with some flower and clean of musk 
and then swop to green again!! 
I thought this fragrance is quite a feminine scent 
but not to sweetness, 
best for day time and all season 
but perfect for spring & summer time. Not long lasting.

Jo Malone English Pear & Freesia
กลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างสดชื่น ฉ่ำเย็น ในช่วงแรกๆ 
ฉีดมาปรื้ดแรก กลิ่นเหมือนสายน้ำเย็นฉ่ำ 
ตามมาด้วย กลิ่นลูกแพรสด กรอบ ฉ่ำน้ำ
แต่เราว่ามีกลิ่นอมเปรี้ยวๆอ่อนๆ มาจากไหนไม่รู้ด้วย 
แทรกเข้ามาบางๆ พอรอสักพัก จะได้กลิ่นดอกไม้หอมอ่อนๆ 
กลิ่นกุหลาบกรุ่นๆ อวลๆ บางเบา ก่อนจะกลายเป็นกลิ่นเขียวๆ 
ค้นหาข้อมูลไปมา เลยรู้ว่า
กลิ่นเขียวๆ น่าจะมาจากกลิ่นของ rhubarb ด้วยส่วนนึงนั่นเอง 
ซึ่งเจ้ารูบาร์บนี้ ไม่ใช่กลิ่นหลักของน้ำหอมขวดนี้
เลยไม่ค่อยมีคนกล่าวถึงเท่าไหร่ 
แต่กลิ่นเขียวเนี่ย จะมาแปลกหน่อยค่ะ 
คือกลิ่นเค้าจะมาแบบ ขึ้นๆ ลงๆ 
ดมๆบางทีกลิ่นจะออกแนวสดชื่น กรีนๆ เขียวๆ 
พักนึงกลายแป็นกลิ่นดอกไม้ ผสมยางไม้ 
พักนึง กลับมาออกเขียวๆอีกล่ะ 
แนวกลิ่นเค้าควรจะเป็น fruity floral แต่ดมกันจริงจังแล้ว
เราว่ากลิ่นเขียว เด่นนำมากกว่า
โดยรวมๆแล้ว เราว่าเป็นกลิ่นของสวน ที่มีปริมาณของต้นไม้ 
ใบไม้เขียวๆ เยอะหน่อย ปลูกปะปนกับดอกไม้ 
พอลมพัดโชยมาแต่ละครั้ง บางทีก็ได้กลิ่นใบไม้ใบหญ้า 
แต่บางทีก็พัดเอากลิ่นดอกไม้มาด้วย อะไรแบบเนี้ยค่ะ 
ไม่ใช่สวนที่เต็มพรึ่บ ขาวโพลน ไปด้วยดอกไม้แบบ 
White Lilac & Rhubarb กลิ่นนี้เป็นกลิ่นโทนหอมเย็น สดชื่น 
เป็นกลิ่นของผู้หญิง แต่กลิ่นไม่ได้อ่อนหวานซักเท่าไหร่ 
ค่อนข้างให้กลิ่นที่สงบนิ่ง ผ่อนคลาย 
ไม่ใช่กลิ่นสดชื่น แบบกระปรี้กระเปร่า 
กลิ่นค่อนข้างอ่อน ไม่ติดทน จึงเหมาะใช้ในช่วงกลางวันค่ะ 
เหมาะกับอากาศร้อน แต่ใส่หน้าหนาวก็โอเคนะ 
เพียงแต่กลิ่นมันอาจจะบางเบาจนแทบจะไม่ได้กลิ่นเค้าเลยค่ะ

Hermès : Un Jardin Sur Le Nil EDT

This impressionistic travel journal. A stroll in the garden islands of the Nile River Starting point for this new olfactory voyage translation of freshness green, mouth-watering, and tangy scents. A fragrance of light and life, generous and sparkling.

Top Notes : grapefruit, tomato stem and carrot.
Middle Notes : hyacinth, lotus blossom, peony, calamus and green mango
Base Notes : sycamore wood, frankincense and incense.

Green fresh first split, Citrus scent refreshing ode and came to soft & mild touched
of blossom. The smolder of woody & spice very gentle soft aroma....
it's fantastic smell I really like this part. The last base the odor citrus came back to
be clear again.
Im very impressible of the fragrance name. Nice dramatic and fully imagination.
A truly natural scent are beautiful rest, Juicy pleasant, fresh & clean, dewdrop & sparkle. Perfect for liveliness day, memories of spring and summer times.
This scent so soft and not long lasting.

Hermès : Un Jardin Sur Le Nil EDT
แค่เห็นชื่อน้ำหอม ก็สร้างจินตนาการเพริศแพร้วไปไกลแล้วค่ะ
สวนสวยริมแม่น้ำไนล์ นึกถึงต้นกก กอบัว แมลงปอ สายน้ำไหลเอื่อยๆ....เหมือนภาพฝันอันสวยงาม
กลิ่นจริงๆเค้าเป็นกลิ่น citrus ค่ะ แอบเคืองเล็กน้อย เพราะในภาพที่นึกถึง ไม่มี ต้นสัม ผลมะนาว อยู่ในนั้น
แหลมมาได้ไง ไม่เข้ากันเลย ชวนให้นึกถึงฝรั่งไฮโซใส่ชุดซาฟารีผ้าลินนิน ตั้งเต้นท์ ปิคนิคริมน้ำไนล์
นั่งจิบ lemonade ใส่น้ำแข็งสบายใจเฉิบไปเลยน่ะ...อ่ะ ตัดเรื่องภาพฝันทิ้งไป
ความจริงกลิ่นนี้ไม่ได้ออกมากลิ่นเดียวโดดเดี่ยว แต่ถูกสร้างให้ออกมาเป็นซีรี่ย์ ของสวนแต่ละแห่งแต่ละที่
ขวดนี้เป็นสวนแห่งลุ่มน้ำไนล์
กลิ่น top ออกเป็นกลิ่นเขียวๆ เฟรชๆ เย็น สดชื่น แล้วตามติดมาด้วย grapefruit
ก่อนจะ blend เข้าสู่กลิ่นของ กลุ่มเครื่องเทศ ไม้หอม ยางหอม
เราชอบช่วงนี้จัง เพราะมันหอมแปลกไม่เหมือนใครเลย น้ำหอมส่วนมาก มักจะให้ช่วงเบสเป็นกลิ่นของพวก
เครื่องเทศ ไม้หอม หรือ musk ผสมๆกัน แต่ส่วนใหญ่กลิ่นจะชัดเจนขึ้นมาเลย กลิ่นมักจะแข็งขึ้น กระด้างขึ้น
แต่อันนี้ไม่เลย กลิ่นนุ่มนวลมาก พอผสมกับกลิ่นดอกไม้ ยิ่งหอมกรุ่น ละมุนละไม นุ่มมากขึ้นไปอีก ชอบๆๆ
พอผ่านไปถึงสุดท้าย กลิ่นโทนซิทรัสกลับเข้ามาใหม่ กลับมามีกลิ่นเขียวๆ อมเปรี้ยวแบบผิวเลมอนขูด
( แต่ส่วนตัวเราไม่อยากให้กลิ่นซิทรัสกลับเข้ามาอีกค่ะ อยากให้จบลงตรงกลิ่น spice พอแล้ว )
กลิ่นนี้ให้ความสดชื่น เป็นกลิ่นแนวธรรมชาติ ต้นไม้ใบหญ้า จึงเหมาะที่จะใช้ช่วงกลางวัน หรือ หน้าร้อน
กลิ่นให้อารมณ์ relax สบายๆ กลิ่นเค้าจะเบาๆ บางๆ หน่อย เลยติดไม่ทนเท่าไหร่ค่ะ

crop top coming

 

Broderie High Neck Crop Tee from Topshop s/s 13
Bleach Crop Denim Shirt from Topshop s/s 13
Neon Pink Crop Tee from Bershka s/s 13
No. 3 Blue Crop Tank from H&M


make light & comfy day with easy piece new trend

crop top let your small bare paunch

If you think it's look too teenage young

choose basic simply

mix with high waist

or layering with something inside for you fashionable

 ..............

  

เอวสูง ข้องเกี่ยวกับ crop top

แต่ crop top ไม่จำเป็นต้องข้องเกี่ยวกับเอวสูงก็ได้ค่ะ

ใส่กับเอวสูง กันโป้เกิน...สำหรับสาวเรียบร้อย

แต่ถ้ามั่นใจ ใส่กับเอวต่ำหน่อย อวดผิวสวยๆน่ามอง 

ใส่ยังไงให้เซ็กซี่เล็กๆ ไม่ดูอนาจาร 

เลือกความสั้นของเสื้อ  

ตามความสูงของเอวกางเกง หรือกระโปรงท่อนล่าง

กะให้ห่างกันซัก 2-3 นิ้วตามความกล้า

ถ้าห่าง 4-5 นิ้ว 

สำหรับเมืองไทย....บ้านซอยเปลี่ยว....อย่าไปคนเดียวเลย

หาหนุ่มๆ หรือเสื้อคลุมไปเผื่อด้วยอีกตัวจะปลอดภัยกว่าค่ะ55

  

A Few of My Perfume, I Really Hate

What's perfect smell??
I can't answer the question, 

because this's personal chemistry and taste.
Today i would like to talk about the scented i heated,
my opinion is my reason, 

that not mean that perfume are bad.
I heated its, maybe you will love its.

I almost like all of my perfumes. 

Some special I'm crazy, love it, adore it,
but sometime i mistake decision... 

So lucky It's just only two i dislike.
The winner are

Fragonard : Lavende EDT
 

They said : Light, fresh and totally pure, Lavande offers you a fragrance from the heart of Provençal tradition. A gentle caress, cradling you in a veil of peace,
harmony and serenity.

I said : I hope it should be like aroma lavender scent but this smell like a cheap men after shave. Fresh lavender come in first notes and disappear in the second, drown with woody and spice scent but not to be harmonious, this combination make
 the notes like a fake synthetic lavender scent and this smelling like a cockroach for me.

Jo Malone : White Lilac & Rhubarb

London Blooms Collection

They said : Adorned by breathtaking botanical drawings. Reflecting the spirit of modern gardens, White Lilac & Rhubarb is a feminine and romantic.
A daring juxtaposition. Tart-vibrant rhubarb cuts through the soft lilac, rose and sun-loving heliotrope.

I said : the reason for my big fail, the gorgeous bottle make me infatuation, I had a limit time for decision and bought, the limited edition must be sold out ( if i came back later ), and my friend cheered me for this one.
The odorously make me feel queasy dizzy and pained nose. It too hard smell and too sweeten like a rank of torn leaf dip with sticky syrup. I try to combined with anything but still not work for me.

....................

ต้องขอออกตัวก่อนว่า นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนบุคคลของเราคนเดียวค่ะ เราเหม็น แต่คนอื่นอาจจะหอม
แค่เคมีเรากะเค้าไม่ตรงกัน ไม่ได้แปลว่าน้้ำหอมเค้าไม่ดีนะคะ เค้าแค่ไม่เหมาะกับเราเท่านั้น
น้ำหอมทั้งหมดที่เรามี ก็มีแบบรักมากกก, ชอบ, หรือแค่เฉยๆ เออก็หอมดี แต่ก็แค่หอมเฉยๆ ไม่ได้โปรดปรานอะไรพิเศษ และก็มีแบบเข้าขั้นชิงชัง ไม่ไหวจริงๆ
ง่ะ....บางครั้งก็ต้องมีพลาดกันบ้าง เลือกซื้อน้ำหอม ที่คิดว่าหอมแล้ว แต่ไปๆมาๆ ไหงมันเป็นงี้ไปด้ายย และนี่คือ สองลูกชัง ที่น่าสงสาร

Fragonard : Lavende EDT

 
น้ำหอมชื่อดังแห่งเมือง Grasse แห่งแคว้น Provence ฝรั่งเศส....ขวดนี้เราอุตส่าห์ไปถอยมาจากโรงงานเลย
แหม นึกภาพทุ่งลาเวนเดอร์แห่งโพร์วองซ์ อันโด่งดังซิ เราก็หมายมั่นที่จะซื้อน้ำหอมลาเวนเดอร์แท้ๆมาเชยชม ตอนลองที่โน่น ได้กลิ่น top notes ก็รู้สึกว่าโอเคล่ะ จัดไป แล้วก็ไปลองกลิ่นอื่น นู้นนี้ เลยไม่ได้กลิ่นช่วงกลาง ช่วงเบสอะไรแระ กลิ่นตีกันยุ่งไปหมด และอาจจะเพราะสภาพอากาศด้วยส่วนนึง ที่พอกลับมาแล้ว แหงะ!! ทำไมมันไม่หอมเหมือนที่วาดฝันไว้เลย อยากได้กลิ่นลาเวนเดอร์แท้ๆ แบบอโรม่า แต่ออกมาเหมือนอาฟเตอร์เชฟราคาถูกๆ กลิ่นลาเวนเดอร์ดีๆ ออกมาแว้บเดียวตอนฟืดแรกที่ฉีดนั่นแหละ หลังจากนั้นมันเป็นกลิ่นแบบวู้ดดี้ สไปซี่ ผสมกับกลิ่นแบบลาเวนเดอร์ปลอม ที่ไม่เข้ากันเอาซะเลย กลิ่นมันหอมแบบสารเคมีสังเคราะห์มากๆ พอรวมๆกันออกมาแล้วมันมีกลิ่นเหมือนตัวแมลงเหม็นๆ หรือกลิ่นแมลงสาบอ่อนๆผสมอยู่!!!
แล้วเราจะไหวมั้ยเนี่ย เลยต้องยกอันดับหนึ่งให้เค้าไป

Jo Malone : White Lilac & Rhubarb

London Blooms Collection 

กรี้ดขวดลายสวย จริงๆอยากได้ พีโอนี & มอส แต่คนที่ไปด้วยเชียร์ตัวนี้ บอกว่าพีโอนี กลิ่นเหมือนน้ำหอมชาย
แต่อันนี้กลิ่นผู้หญิง ตอนนั้นรีบด้วย ไม่มีเวลานวยนาด ฉีด ดม เดินรอให้ถึงเบสโน้ต เดี๋ยวตกเครื่อง
เลยบ้าจี้ซื้อตามแรงเชียร์ ผลปรากฎว่า เราเข้าขั้นเกลียดกลิ่นนี้เลยทีเดียว เสียใจสุดๆ อยากกลับไปซบอกพีโอนีสุดที่รัก แต่ไม่ทันแล้ว เค้าหมดไปแล้ว เศร้ามาจนถึงวันนี้
ไม่เถียงเลยว่ากลิ่นมันเหมือนเรานั่งอยู่ในสวนดอกไม้หลังบ้านยามเช้า ที่แน่นขนัด อัดแน่นไปด้วยดอกไม้สดๆ สีขาว
แข่งกันเบ่งบานส่งกลิ่นหอมคละคลุ้ง ฟุ้งกระจาย มากซะจนเราเวียนหัว ปวดจมูก จะเป็นลม กลิ่นดอกไม้หอมแรง หวานเอียน แนวดอกไม้ไทยๆดอกแก้ว ดอกราตรี กลิ่นแรงๆ ปนกับกลิ่นก้านรูบาร์บ ที่เป็นกลิ่นผัก ออกแนวใบไม้เหม็นเขียว ผสมกันออกมาแล้วกลิ่นเหมือนยากันยุง ที่พยามยามกลบเกลื่อนใส่กลิ่นหอมเข้าไปกลบกลิ่นสารเคมี
ลองเอาไป combine กับทุกอย่างก็ยังไม่เป็นผล แม้แต่กับ pomegranate ที่ทางโจเองแนะนำก็ยังไม่ประทับใจ
สุดท้ายถอดใจยอมแพ้เธอแล้วค่ะ
 

Annick Goutal : Petite Chérie EDP

The perfume you want to kiss...
Petite Chérie is a bright and cheerful floral-fruity musky perfume. Beneath its soft, mischievous and carefree airs, the fragrance unveils captivating, devilishly tempting and dangerously endearing charms.
It seduces firstly with its playful notes of sweet and juicy pear and freshly cut grass then blossoms into sumptuous and sensual rose with petals as velvety-soft as skin.
The fluted bottle is presented in a precious golden purse, protecting it from the light in order to preserve its scents.The concentration in eau de parfum, more floral and musky, will offer a better holding on your skin.

This feminine and youthful scent smells great on women of all ages. A dominant top note of fresh, ripe pear gives way to a chorus of ripe peach, rich vanilla, and green grass. Beneath it all, a base note of musky rose lingers for hours.

Top notes : Cut grass, Peach
 Middle notes : Musky Rose, Pear
 Base note : Vanilla

Opening with Green scent rarely fresh of fruit combination with rose soft & clean at the end. Dewy & Greenfield scent bring you to gently & young like a girl who enjoyable of life. It's Jolly & feeling of freedom, nice soft scent great for day live,
this's EDP but quite a light and not lasting.

ในบรรดามหากาพย์ความแพงของน้ำหอมด้วยกัน 

( ถ้าไม่นับน้ำหอม niche ต่างๆนานา ที่ทั้งแพงทั้งหายาก )
น้ำหอม JO ว่ามันแพงแล้ว ยังมี Penhaligon's และ Annick Gutal เนี่ยแหละ ที่แพงยิ่งกว่า
Annick Gutal เป็นน้ำหอมแนว เริ่ดหรูไฮโซ สไตล์ สาว parisian 

ส่วนใหญ่กลิ่นเค้าจะเหมาะกับผู้ใหญ่หน่อย 

สาว riche ใช้กันเยอะ ( ยกเว้นฉานน T T ) 

กลิ่นไม่หวือหวา แต่จะมีความแปลก 

กลิ่นเค้าจะไม่ค่อยโหลเท่าไหร่ค่ะ 

Petite Chérie เป็นน้ำหอมที่อ่อนเยาว์สุดๆแล้วเท่าที่เค้าเคยมีมา 

ฟังชื่อก็รู้สึกอย่างนั้น 

แรกๆ เลยคิดว่าจะเป็นกลิ่นหอมหวานน่ารัก สมชื่อ แต่เปล่าเลยค่ะ
กลิ่นมันเป็นกลิ่นเขียวๆ แนวเฟรช สดชื่น กลิ่นไม่ดูแก่ 

แต่ก็ไม่ใช่เด็กสาวอายุ 15-16 แต่กลิ่นเหมือนหญิงสาวอายุ 20 

เด็กสาวที่กำลังเติบโตเป็นหญิงสาวเต็มตัว 

กลิ่นให้ความรู้สึกถึงความปรารถนาที่จะเป็นอิสระ
นึกถึงพวกทุ่งหญ้า, บุพผาชน, กรีนพีช ทำนองนั้น 

ถ้าเคยยืนเกาะท้ายรถกระบะที่วิ่งผ่านสวน ผ่านป่า 

ได้กลิ่นต้นไม้ ใบไม้เขียวๆในป่า กลิ่นนี้คือแบบนั้นเลยค่ะ 

กลิ่นนี้บรรยายยากจังเลย จริงๆกลิ่นหลักเค้าเป็นกลิ่นเขียวๆ ดินๆ
แต่ก็มีกลิ่นกุหลาบหรูหราอบอวลแทรกกันอยู่ แปลกดีที่พอกลิ่นเขียวเจอกับกุหลาบแล้วเหมือนไม่น่าจะไปกันได้
แต่มันช่วยให้กลิ่นมันไม่เลี่ยนเกินไป 

ถ้าเทียบกับ พี่มาร์คขาา จาคอป เดซี่ อันนั้นเขียวแรง

จนอาจกลายเป็นเหม็นเขียวได้ถ้าไม่ระวัง แต่อันนี้เขียวพอดีๆค่ะ 

ไปได้รอดแม้หน้าร้อน กลิ่นเค้าเบาสบาย เหมาะฉีดกลางวัน
แต่ติดไม่ค่อยทนเท่าไหร่ จางเร็วเหมือนกันค่ะ

Ralph Lauren Big Pony No. 4 Purple

Ralph Lauren Big Pony No. 4 Purple

Stylish : oriental floral scent

The stylish fragrance. Edgy and refined, with a flair for the exotic, this Oriental Floral contains key ingredients of Wild Cherry & Purple Amber for a soft. Designed for the stylish woman, she catches the eye and imagination of anyone who crosses her path.

Dark of berry notes came first....then trans to soft of amber and a bit of sweet & clean finish with spicy scented. This's Absolutely oriental smell like a gum Benjamin, sophisticate & mysterious, flirty & romantic.

...................

No. 4 Purple

กลิ่นนี้เค้าบอกเป็น oriental floral 

แต่เราว่า ออกแนวหอมธูป กำยาน ทำนองนั้นค่ะ

ถ้าใครชอบกลิ่นแนวนี้อยู่ละก็ 

สมควรมีไว้สะสมครอบครองเป็นอย่างยิ่งค่ะ

เพราะกลิ่นแบบนี้ ค่อนข้างมีไม่มากนักในท้องตลาด

กลิ่น floral มาจากไหนหนอ??

 เพราะเราได้แต่กลิ่นแนว หวานอมเปรี้ยวแบบผล berry 

กับกลิ่นแบบ อินเดี้ย อินเดีย ของพวกกำยาน กับอำพัน 

เหมาะกับสาวสไตล์แนวยิปซี โบฮีเมี่ยน

กลิ่นนี้ให้ความเป็นสาวลึกลับ เจ้าเสน่ห์ ชวนค้นหา เข้มแข็ง 

และไม่อ่อนต่อโลกแน่นอน

แต่ขณะเดียวกันก็แฝงความโรแมนติคเอาไว้ด้วยค่ะ

และแน่นอนว่ากลิ่นแบบนี้มักจะค่อนข้างเข้ม และติดทนนาน 

ถ้าคุณค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่หน่อย 

ฉีดกลิ่นนี้จะ ไปได้ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ะ 

ฉีดไปทำงานจะดูเป็นผู้ใหญ่เคร่งขรึมดี ลูกน้องไม่กล้าเถียงแน่นอน

และถ้าคุณไม่ได้แต่งตัวแนวแขก หรือโบฮีเมี่ยนมาละก้อ 

แนะนำให้ฉีดกลิ่นนี้ช่วงกลางคืนดีกว่าค่ะ

ฉีดไปงานต่างๆ จะดูเร้นลับน่าค้นหากว่า 

ถ้าฉีดกลางวัน เราว่ากลิ่นจะแก่ไปน่ะค่ะ

แต่ถ้าคุณเป็นสาวโบเต็มตัวอยู่แลัว จะฉีดเวลาไหนไม่สำคัญ 

เพราะกลิ่นนี้จะช่วยเสริมลุคคุณ ให้ฟินขึ้นไปอีกแน่นอน

Ralph Lauren Big Pony No. 3 Yellow

Ralph Lauren Big Pony No. 3 Yellow

 Free - Spirited : floral green scent

Eccentric, rebellious and independent, this Floral Green fragrance highlights Pear & Mimosa. The crisp, bright & dazzling scent represents ultimate optimism and natural feminine radiance for a woman who dances to the beat of her own drum.

Light and fresh of citrus first waiting while trans to brighting of floral and green fresh

No.3 is enormously fresh scent, Freedom & Lively, Cheerfully & Sparkle.

Clean Clear And intense. ( I love this <3 )

..................

No. 3 Yellow

กลิ่นแรกเป็นโทน citrus หอมสดใสมากค่ะ 

แล้วตามมาด้วยกลิ่นดอกไม้หอมสดชื่น 

ได้กลิ่นแบบ ทุ่งหญ้า แซมดอกไม้โล่งกว้าง ลมพัดเย็นๆ แนวๆนั้น เป็นกลิ่นที่สดชื่น สดใสที่สุดในคอลเล็คชั่น สดชื่นมากกว่า no.1 ค่ะ

และก็เป็นกลิ่นที่เราชอบมากที่สุดด้วย กลิ่นสะอาดๆ 

ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบาย 

กลิ่นเข้มข้น ติดทนดีใช้ได้

กลิ่นนี้ค่อนข้างจะเป็นกลางๆ ไม่เด็กไป ไม่แก่ไป 

เราว่าเหมาะจะใช้กับทุกเวลา และทุกโอกาส 

ใส่เที่ยวเล่น กลิ่นก็ให้ความรู้สึกที่สบาย 

ใส่ทำงาน กลิ่นสะอาดๆ ดูน่าเชื่อถือดีค่ะ 

ตอนแรกๆ คิดว่ากลิ่นนี้เหมาะจะใส่ช่วงเวลากลางวัน 

แต่พอไปถึงช่วง base notes กลิ่นนี้ก็แอบหรูพอที่จะใส่ไปดินเนอร์

ในบรรยากาศใต้แสงเทียนได้

เราว่ากลิ่นนี้ใช้ง่าย และเข้ากับอะไรๆได้ง่ายกว่าเพื่อนๆในกลุ่มนะ โดยเฉพาะหน้าร้อนนี่เราว่ากลิ้นนี้เหมาะมาก

Ralph Lauren Big Pony No. 2 Pink

 

 Ralph Lauren Big Pony No. 2 Pink
Sensual : fruity scent
 
The sensual fragrance. A Floriental Fruit with the key ingredients of Cranberry & Tonka Mousse, this fragrance is for an alluring flirt with a romantic spirit. Playful and irresistible, this modern woman follows her heart... and she just might break yours.

Tops notes open with a sweet scent of fruity and came to smell soft like a candy.
This scent is a younger women. Toughing of Fun, Softly, Delight, Pretty & Delicate.
Bring you to alive and playful, lovely and romantic. Not deep scent like No.1


....................
 
No. 2 Pink

 เปิดกลิ่นมาก็หอมหวานสดใสน่ารักแล้วค่ะ 
กลิ่นหอมแนวลูกกวาดน่าทานมาก 
เหมาะกับสาวหวานๆน่ารัก บอบบาง กุ๊กกิ๊ก วัยรุ่น 
ใส่กลิ่นนี้ดูสมวัยกำลังดี แต่สาวใหญ่อยากฉีดบ้างก็ไม่ผิดกติกาค่ะ 
แต่เหมาะกับวันหยุดพักผ่อน เดินเล่น ช้อปปิ้ง สบายๆ มากกว่า 
ใส่ไปทำงานอาจขาดความน่าเคารพ เชื่อถืออย่าแรงง
ตัวนี้กลิ่นทนใช้ได้ แต่กลิ่นจะเบากว่า no.1ค่ะ เหมาะใส่กลางวัน 
ใส่ออกเดทแบบไม่เป็นทางการ
ใส่นอนกลางคืนก็ไม่เลวค่ะ หลับฝันดีทีเดียว

Ralph Lauren The Big Pony Collection for Women's No.1

Ralph Lauren celebrates her many facets and accomplishments with The Big Pony Collection for Women, a series of four fragrances embracing dynamic femininity.
A new generation of women is leading the way and they now have a fragrance collection to call their own. The Big Pony Collection for Women explores four of her vital attributes. All four colorful fragrances are bright, playful and energizing, and set upon a floral backdrop, yet each expresses a clear point of view. Based on a duo of ingredients, each fragrance pops with a unique accent of Citrus, Fruit, Green or Oriental to establish a clear identity with a distinctive twist. Now she has the fragrances to enhance experiences, complement her style and inspire her passions with The Big Pony Collection for Women.

น้ำหอมสไตล์อเมริกัน เช่น Polo, DKNY, ck, Tommy ( ในความเห็นส่วนตัวของเราเองนะ ) เท่าที่สังเกตุดู
ส่วนใหญ่มักจะมีกลิ่นหอมแบบ...หอมติดดิน กลิ่นสบายๆ ใช้ง่าย และเข้าถึงได้ง่าย มีความเป็นมิตรสูง
กลิ่นจะไม่หรูหรา ซับซ้อน เย่่อหยิ่ง อลังการ เหมือน น้ำหอมฝรั่งเศส
Big Pony นี่ก็เหมือนกัน ออกคอลเล็คชั่นน้ำหอม 4 พี่น้อง มาเอาใจหนุ่มๆ ให้สาวๆ อิจฉาเล่นมาพักใหญ่
มาวันนี้สาวๆก็ไม่ได้น้อยหน้า กับ ซีรี่ย์ สี่สาว สี่สี สี่กลิ่น ให้คุณสาวๆ เลือกให้ตรงใจ ตรงบุคลิก และความชอบ
โดยไม่ทิ้ง concept ความเป็น American Casual ไปเลยแม้แต่น้อย

Ralph Lauren Big Pony No. 1 Blue
Sporty : fresh scent
 
Is invigorating mix of sparkling and cool fresh.
This Floral Citrus scent features Grapefruit & Blue Lotus for a vibrant, energetic
fragrance that evokes confidence and energy while awakening the senses.
Confident and fearless, the sporty woman is a natural born leader and ready to take on the world.

First Cool Fresh & Dewy blend with some sweet floral and down to aquatic scent.
Beating, Brilliant & Energize but fully feminine. This's EDT but quite a Bit of intense
& lasting scent. Very perfect for a days live.

 ..................
  
No.1 Blue

โน้ตแรกออกมาแบบสดชื่น ร่าเริง 
แต่มีกลิ่นความหวานแบบ floral ผสมอยู่ด้วยค่ะ 
กลิ่น citrus ของ grapefruit ไม่ได้โดดเด่นมากนักในช่วงแรก 
รอไปสักพักกลิ่นจะหอมเย็นๆ แบบน้ำหอมกลิ่น aquatic ทั่วไป
สุดท้ายท้ายสุด เราได้กลิ่นแบบ citrus กลับมาเติมความหอมเย็น
ให้มีกลิ่นที่สดใส กระฉับกระเฉง มีพลังมากขึ้น  
สมเป็นกลิ่นแบบ Sport 
ตัวนี้ให้กลิ่นเข้มชัดติดตัวใช้ได้ทีเดียว 
และด้วยความเป็นกลิ่น sporty 
เราว่ากลิ่นนี้จึงค่อนข้างเหมาะที่จะใช้ช่วงกลางวัน 
เหมาะกับวันทำงาน อัพพลังให้กระปรี้กระเปร่า 
มากกว่าที่จะฉีดในวันสบายๆ 
 ฉีดไป gym ตีแบต ตีกลอง ร้องคาราโอเกะ ไปกันได้เลย 
แต่เราว่าไม่ค่อยเหมาะเลย ถ้าจะฉีดไปงานกลางคืน  
หรือไปดินเนอร์ค่ะ 
กลิ่นจะชวนบ้าพลัง ลุกลี้ลุกลนไปหน่อย 
แต่ถ้าอยากฉีดไปแดนซ์ละก้อ...ไม่ว่ากันล่ะ

Jo Malone : Nectarine Blossom & Honey Cologne

London's Covent Garden early morning market.

Succulent nectarine, peach and cassis 
and delicate spring flowers melt into the note of 
acacia honey. Sweet and delightfully playful. 

This scent is my first start to 
the world of Jo Malone fragrance.

Fresh citrus came first then blend with 
luscious sweet of fruit.

I thought i smelled vetiver too and down with 
honey and bit of some warm at last.
All Jo Malone Scent dress up for men & women 

but this' s very feminine,
Very truly sweet & temptation, 

full intense and attach with you body up to 24 hour. 

Many people recommend it's must have for every women.
First time i used I feel dizzy

cause base notes scent very saccharine for me.
But i don't give up

( the expensive price are reason....ha ha )
So i try try try to used : )
I ever try combine with vetiver but not succeed for me
and finally found...it's perfect with English Pear & Freesia.


...............

Nectarine Blossom & Honey Cologne
อันนี้เป็นโจรุ่นแรกที่มีในครอบครอง ( ถอยมาพร้อมๆกับ Vetiver )
ซื้อเพราะกิตติศัพท์ความหอมมากมายแทบตายดิ้น 
ที่สังคมโซเชียลเค้าร่ำลือกัน
จริงแล้วไม่ค่อยชอบน้ำหอมกลิ่นหวานๆมากนัก 
แบบพวก anna sui เนี่ยไม่ชอบเลย
กลิ่นดอกไม้ไทยๆพวกดอกราตรี พุดซ้อน เล็บมือนาง เนี่ยอีก 
หอมแรงๆ เอียนๆ เกลียดมาก
แต่ก็ยังไม่เคยมีกลิ่นแนวนี้ในครอบครอง 
เลยอยากลองมีกลิ่นที่แตกต่างออกไปบ้าง
เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
( พยายามลองเปิดใจยอมรับดูบ้าง....ว่างั้น )

ฉีดมาตอนแรกก็เออๆ ok กลิ่นเค้าผู้หญิงมากๆ 
กลิ่นหอมหวานเยิ้มสุดๆ น่าจะเหมาะกับสาวหวานๆ 
 แต่กลิ่นไม่ได้หวานใส innocent 
กลิ่นมันแอบยั่วยวนอยู่ลึกๆ temptation but not sexy
ตอนนั้นตัวเราเองยังไม่คุ้นกับกลิ่นแนวนี้เท่าไหร่ 
เลยไม่ได้ปลื้มอะไรมากเหมือนที่ใครๆ เค้าปลื้มกัน
พอผ่านไปเรื่อยๆจนถึง base notes เรายิ่งไม่ชอบเลย 
หวาน เอียน เลี่ยน คลื่นไส้ เวียนหัวมาก
กลิ่นมันเหมือนลูกพลับ ผสม ลูกจันทร์ ที่สุกงอมจัดๆ ประมาณนั้น 
ยังดีที่ตอนนั้น มันเป็นหน้าหนาว
และปีนั้นอากาศกรุงเทพค่อนข้างเย็น...
หืออ....ถ้าใส่ตอนอากาศร้อนๆ เราคงเวียนหัว ท้องอืด ตาลาย
เป็นลมล้มพับไปแน่ๆ แต่เรายังไม่ยอมแพ้ 
เพราะซื้อมาแล้วนี่ ซัดไปซะ 100 ml. ก็มันเสียดาย
แพงก้อแพง อิอิ "งก" ค่าา เลยทนทู่ซี๊ใช้มันต่อไป 
แต่ตอนนั้น ก้อจะ combine กะ Vetiver นั่นแหละ
จริงๆ combine แล้วก็ยังงั้นๆ 
รู้สึกว่ากลิ่นมันยังไม่ perfect สำหรับเรา 
ผสมกันแล้ว กลิ่นจะแหลมๆขึ้นมาหน่อย พอแก้เลี่ยนได้บ้าง, 
เคยลอง combine กับ Orange Blossom ด้วยนะ 
แต่ก็ยังไม่ work อยู่ดี  
พอนานๆไปเริ่มชินกลิ่น บวกกับความขี้เกียจ 
วันไหนถ้าอากาศดีหน่อย มียอมฉีดเดี่ยวๆไปบ้าง 
เริ่มพอไหว แต่ก็ไม่ฉีดเยอะ เพราะกลิ่นนี้ติดทนสุดๆจริงๆ 
เช้าวันนี้ไปจรดเช้าอีกวันก็ยังติดแน่นอยู่บนผิว  
( อ้าว...ไม่อาบน้ำนิ?? ) 
แต่ยังไงๆก้อไม่ฉีดหน้าร้อนเด็ดขาด
หลังๆได้ English Pear & Freesia มาช่วยอีกแรง 
เราว่ามันเข้ากันได้ดีมากนะ 
รู้สึกว่าสำหรับตัวเราแล้ว คู่นี้แหละ Perfect 
ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ของกลิ่นได้ดีที่สุดมากกว่าขวดอื่นๆ 
เพราะมันเติมความสดชื่น
และ เติมกลิ่นดอกไม้สดๆ เข้าไป 
ช่วยลดความหอมเอียนของกลิ่นผลไม้สุกได้ดี 
หอมขึ้นเห็นๆค่ะ